การแข่งขันนัดล่าสุดของฝรั่งเศสในศึกยูฟ่าเนชั่นลีกที่พบกับอุรุกวัยเป็นการแข่งขันที่ยากลำบากของทีมตราไก่ที่บุกแล้วบุกอีกแต่ยังทำประตูนำชัยเหนืออุรุกวัยไม่ได้ จนมาถึงนาทีที่ 36 เอ็มบาปเป้ได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกที่ล้มตัวลงจนทำให้ไหล่ได้รับความบาดเจ็บจนทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออก ปารีส แซงต์ แชร์กแมงน่าจะมีเซ็งเพราะคีเลียน เอ็มบาปเป้ดันมาเจ็บไหล่ในเกมนี้ แต่สุดท้ายฝรั่งเศสได้รับลูกจุดโทษ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้รับหน้าที่สังหารยิงประตูขึ้นนำ 1-0
สองทีมนี้เคยเจอกันมาแล้วในรอบก่อนรองชนะเลิศของฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งฝรั่งเศสชนะไป 2-0 แต่เกมนี้มีความสำคัญน้อยกว่า ฝรั่งเศสเปลี่ยนสไตล์นิดหน่อยเปลี่ยนคู่เซ็นเตอร์ให้รามี่กับซาโก้ลงเล่นบ้างส่วนแบ็คซ้ายให้แฟร์ล็องด์ เมนดี้จากลียงประเดิมสนาม แดนกลางก็เอาเอ็นดมเบเล่มาจับคู่กับก็องเต้ ส่วนอุรุกวัยอุ่นเครื่องเกมนี้ใช้ไลน์อัพไม่ต่างจากที่พ่ายบราซิลนัดก่อน ยกเว้นแค่ให้วัลเวร์เด้ลงมายืนแดนกลางเพิ่ม
ฝรั่งเศสหาทางบุกมาลุ้นกันอีกครั้งเมื่อเอ็นดมเบเล่แทงเข้าเขตโทษ กลายเป็นเอ็มบาปเป้หลุดเข้าเขตโทษมาทางขวาโล่งๆ กำลังจะเดี่ยวๆ แล้วแต่โดนคัมปันญ่าออกมาสไลด์ดักไว้ บอลเด้งเข้าทางปาวาร์ยิงสวนก็พุ่งออกหลัง
นาทีที่ 36 เอ็มบาปเป้เจ็บไหล่เล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนออก จังหวะที่เอ็มบาปเป้หลุดเดี่ยวแล้วโดนคัมปันญ่าสไลด์ดักไว้ก่อนหน้านี้ เอ็มบาปเป้ดันลงท่าไม่ดีเลยทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ เช็คอาการกันอยู่พักนึงเอ็มบาปเป้วิ่งกลับมาเล่นต่อ แต่แล้วก็ไม่ไหวทิ้งตัวไปนอนเลยต้องเปลี่ยนออก
HALF TIME
ครึ่งหลังฝรั่งเศสก็มาได้จุดโทษหลังจากกรีซมันน์ยิงไปติดบล็อกเหมือนจะโดนแขน เมนเดซ กรรมการเป่าทันที ทีมตราไก่ตีปีกขึ้นนำหลังจากได้ลูกจุดโทษชิรูด์ซัดโทษไม่เหลือส่งทีมขึ้นนำ ชิรูด์รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ฝรั่งเศสออกนำ 1-0 โอกาสสุดท้ายของอุรุกวัยแล้วรีบเอาบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษฝรั่งเศส ก่อนจะจบด้วยการยิงไกลของเวซิโน่แต่ก็ไม่ดีพออีกญอริสรับเอาไว้ไม่มีปัญหา
จบเกมฝรั่งเศสเฉือนเอาชนะอุรุกวัยไป 1-0 ส่งท้ายปี 2018 ที่พบกับความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์โลก เสียดายเพียงแค่พวกเขาไม่ได้เข้าไปเล่นเนชันส์ ลีกรอยบรองชนะเลิศ