การแข่งขันฟุตบอลสุดเดือดแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ 2018/19 เมื่อคืนวันที่ 26 ธันวาคม 2561 สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 9 คู่ด้วยกัน ฟูแล่ม พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน , เบิร์นลีย์ พบกับ เอฟเวอร์ตัน , คริสตัล พาเลซ พบกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ , เลสเตอร์ ซิตี้ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , ลิเวอร์พูล พบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด , ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ พบกับ บอร์นมัธ , ไบรตัน พบกับ อาร์เซน่อล , วัตฟอร์ด พบกับ เชลซี
สรุปผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19
วัตฟอร์ด แพ้คารัง เชลซี 1-2
วัตฟอร์ด เปิดบ้านต้อนรับ สิงห์บลู เชลซี ทีมอันดับ 4 ของตารางในขณะนี้ เชลซี ฟอร์มเหนือกว่าขึ้นนำก่อน 1-0 จากการทำประตูของหัวหอกสุดโหดอย่าง เอแดน อาซาร์ ในนาทีที่ 45+1 แต่ได้ประตูไม่นาน วัตฟอร์ด ได้ประตูจาก โรเบอร์โต้ เปเรย์รา ในนาทีที่ 45+3 จบครึ่งแรกเสมอกันที่ 1-1 เริ่มเกมการแข่งขันครึ่งหลัง เอแดน อาซาร์ ได้สังหารในประตูจากจุดโทษในนาทีที่ 58 จบเกมการแข่งขัน เชลซี คว้าชัยเอาชนะคาบ้าน วัตฟอร์ด ด้วยสกอร์ 2-1
ฟูแล่ม เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1
จบเกมการแข่งขัน 90+4 นาที ฟูแล่ม ทำได้เพียงเสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยสกอร์ 1-1 เท่านั้น เริ่มเกมมาทั้งสองทีมแบ่งใบเหลืองกันตามๆ กัน ฟูแล่ม ได้ 2 ใบเหลืองในครึ่งแรก ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน รับไป 1 ใบ หมดครึ่งแรกเกมดูอึดอัด เริ่มครึ่งหลัง ฟูแล่ม บุกได้ประตูจาก ไรอัน เซสเซกนัน ยิงขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 74 วูล์ฟแฮมป์ตันต้องอดทนและตั้งสติให้ดีที่สุด สุดท้าย ทีมหมาป่าก็ได้ประตูตีเสมอจาก โรแม็ง ซาอิสส์ การทำประตูสุดสวย ทำให้ วูล์ฟแฮมป์ตันไล่ตีเสมอกับฟูแล่มไปได้ จบเกมการแข่งขันทำได้เพียงเสมอด้วยสกอร์ 1-1 แบ่งแต้มกันไป
เบิร์นลีย์ แพ้ยับ เอฟเวอร์ตัน 1-5
เบิร์นลีย์ เปิดสนามต้อนรับการมาเยือนจาก ท็อฟฟี่น้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน การแข่งขันนัดสำคัญ เอฟเวอร์ตัน พกความมั่นใจมาเพียบ เริ่มเกมเพียง 2 นาที เยอร์รี่ มินา ยิงเปิดประตูให้เอฟเวอร์ตันขึ้นนำ 1-0 เพิ่มความมั่นใจให้กับเอฟเวอร์ตันได้มาก เอาอีกแล้ว นาทีที่ 13 ลูคัส ดิกเน เอฟเวอร์ตันยิงอีกแล้ว หลังจากนั้นนาทีที่ 22 กิลวี ซีกืร์ดซอน เอฟเวอร์ตันยิงอีก เบิร์นลีย์ต้องตั้งเกมให้ดีกว่านี้ สุดท้ายพวกเขาก็ได้ตีไข่แตกจากการทำประตูของ เบน กิบสัน ในนาทีที่ 36 หมดครึ่งแรก เอฟเวอร์ตันขึ้นนำ 3-1 เริ่มครึ่งหลังเอฟเวอร์ตันยิงรวด 2 ลูกจากการทำประตูของ ลูคัส ดิกเน กับ ริชาร์ลิสัน สรุปนัดนี้ เบิร์นลีย์ แพ้ยับ เอฟเวอร์ตัน 1-5
คริสตัล พาเลซ เสมอ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 0-0
เกมการแข่งขันระหว่าง คริสตัล พาเลซ vs คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมก็เปิดเกมการบุกการรับโชว์ฟอร์มกันอย่างดุเดือดแต่ไม่สามารถทำอะไรกันได้จนหมดเวลาครึ่งแรกต้องลุ้นกันต่อในครึ่งหลัง เริ่มครึ่งหลังมา คริสตัล พาเลซ เปลี่ยนตัว มัคส์ ไมเออร์ ออกเปลี่ยนให้ คอนเนอร์ วิกคัม ลงมาแทนแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกันได้ทั้งสองทีมทำได้เพียงแบ่งแต้มกันไป คริสตัล พาเลซ เสมอ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 0-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยเหนือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-1
แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนกุนซือใหม่เมื่อไม่นานมานี้ หลัง โจเซ่ มูรินโญ๋ ออกจากสโมสรไป นัดที่แล้วกับนัดนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะต่อเนื่องกัน 2 เกม และนัดนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยเหนือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ด้วยสกอร์ 3-1 จึงทำให้พวกเขามี 32 คะแนน ห่างจากอาเซน่อลเพียง 6 แต้ม รั้งอันดับที่ 6 ของตาราง
เลสเตอร์ ซิตี้ เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1
เลสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มดีทั้งรับทั้งรุกเฉือนชนะทีมใหญ่หัวตารางมาแล้ว 2 ทีม ติดต่อกัน หลังจากเกมนัดที่แล้วที่บุกไปเฉือนเอาชนะ เชลซี คาบ้าน และนัดนี้ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับ เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ เฉือนเอาชนะอีกด้วยสกอร์ 2-1
ลิเวอร์พูล บุกถล่ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-0
เปิดเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล แบกความมั่นใจในฐานนะอันดับ 1 ของตาราง ขึ้นนำก่อนด้วยการทำประตูของ เดยัน ลอฟเรน ในนาทีที่ 11 หลังจากนั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูขึ้นนำไปเป็น 2-0 หมดครึ่งแรก หงส์แดง ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำไป 2-0 เริ่มครึ่งหลังการแข่งขันดำเนินไป ลิเวอร์พูล ครองเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง แจร์ดัน ชาชีรี ยิงอีกหนีขึ้นนำไปเป็น 3-0 แต่แค่นั้นไม่เพียงพอสำหรับทีมอันดับ 1 ยิงประตูเพิ่มอีกลูกจากการทำประตูของ ฟาบินโญ่ ในนาทีที่ 85 จบการแข่งขันลิเวอร์พูลชนะไป 4-0 ถล่มนิวคาสเซิลแหลก
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ถล่มหนัก บอร์นมัธ 5-0
เปิดเกมการแข่งขัน ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ถล่มยับ บอร์นมัธ ด้วยสกอร์ 5-0 จึงทำให้ สเปอร์ ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ของตารางห่างจากจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูลแค่ 6 แต้มเท่านั้น
ไบรตัน ป้องกันแต้มจาก อาร์เซน่อล 1-1
เริ่มเกม อาเซน่อล บุกยิงตุงตาข่ายขึ้นนำก่อนจากการทำประตูของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ในนาทีที่ 7 หลังจากนั้น ไบรตัน ก็บุกตีเสมอได้ในนาทีที่ 35 จาก เยอร์เก้น โลกาเดีย ที่ทำประตูตีไข่แตก จบเกมการแข่งขัน อาร์เซน่อล ทำได้เพียงเสมอกับ ไบรตัน 1-1